ในโลกธุรกิจที่ทุกวินาทีมีความหมาย ผู้บริหารระดับสูงจึงจำเป็นต้องมี “ผู้ช่วยด้านการเดินทาง” ที่ไว้ใจได้อย่างสมบูรณ์แบบ บทบาทของพนักงานขับรถผู้บริหารนั้น ยังรวมถึงการสร้างสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงสุดในระหว่างการเดินทาง
ดังนั้น หากคุณกำลังมองหางานขับรถผู้บริหาร หรือต้องการพัฒนาตนเองในสายอาชีพนี้ การรู้ว่า ผู้บริหารหรือนายจ้างต้องการคนแบบไหน จึงเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ ลองมาดูกันว่า 5 คุณสมบัติที่นายจ้างมองหานั้นมีอะไรบ้าง
1.ความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง (Safety First)
นี่คือคุณสมบัติพื้นฐานและสำคัญที่สุด ผู้บริหารไว้วางใจให้คุณดูแลชีวิตและเวลาของพวกเขา ดังนั้น ทักษะการขับขี่จึงต้องเป็นเลิศและเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก
-ทักษะการขับขี่ขั้นสูง ไม่ใช่แค่ขับเป็น แต่ต้องขับอย่างมืออาชีพและนุ่มนวล (Smooth Driving) หลีกเลี่ยงการเบรกกะทันหันหรือการเปลี่ยนเลนที่ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกไม่สบายตัว
-ความรู้ด้านกฎจราจรและ Defensive Driving ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด มีสติและสมาธิอยู่ตลอดเวลา พร้อมรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด และสามารถ วางแผนสำรองเส้นทาง เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์เสี่ยง เช่น การจราจรติดขัด หรือการก่อสร้าง
-การดูแลรักษารถ คนขับรถที่ดีต้องมี ความรู้ด้านช่างยนต์เบื้องต้น สามารถตรวจเช็กสภาพรถยนต์ (ยาง, น้ำมันเครื่อง, เบรก) ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ เพื่อป้องกันปัญหาระหว่างทาง
2.ความซื่อสัตย์และการรักษาความลับ (Trust and Confidentiality)
คนขับรถผู้บริหารจะได้ยินและรับรู้ข้อมูลสำคัญของบริษัทและเรื่องส่วนตัวของผู้บริหารในระหว่างการเดินทาง ซึ่งความลับเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีมูลค่ามหาศาล
-ความน่าเชื่อถือ นายจ้างต้องการคนที่ไม่มีประวัติอาชญากรรม (Background Check) และมีประวัติการทำงานที่ใสสะอาด
-การรักษาความลับ (Discretion) ต้องมีจรรยาบรรณในการทำงานสูง ไม่นำเรื่องส่วนตัว หรือข้อมูลการสนทนาทางธุรกิจของผู้บริหารไปเปิดเผย หรือพูดคุยวิพากษ์วิจารณ์ให้ผู้อื่นฟัง ความเงียบ จึงเป็นทักษะสำคัญอย่างยิ่งในอาชีพนี้
3.มารยาทและภาพลักษณ์ระดับมืออาชีพ (Professional Etiquette and Image)
พนักงานขับรถคือ “หน้าตา” แรกที่ผู้บริหาร ลูกค้า หรือพันธมิตรทางธุรกิจจะเห็น ดังนั้นบุคลิกภาพจึงมีความสำคัญไม่แพ้ทักษะการขับขี่
-การแต่งกายและสุขอนามัย แต่งกายสุภาพเรียบร้อยตามระเบียบขององค์กร มีความสะอาด ไม่มีกลิ่นตัวหรือกลิ่นบุหรี่ (หลายบริษัทเคร่งครัดเรื่องการสูบบุหรี่อย่างมาก)
-การบริการแบบมืออาชีพ การเปิด-ปิดประตูรถอย่างสุภาพ การช่วยอำนวยความสะดวกในการยกสัมภาระ หรือแม้แต่การสังเกตว่าผู้บริหารต้องการอะไรโดยที่ยังไม่ต้องร้องขอ (เช่น การเตรียมน้ำดื่ม อุณหภูมิในรถที่เหมาะสม)
-การสื่อสาร พูดจาสุภาพ อ่อนน้อม ใช้คำพูดที่เหมาะสม และรู้จังหวะในการสื่อสาร ไม่พูดมากเกินไป และไม่แทรกบทสนทนาของผู้บริหาร
4.ทักษะการบริหารจัดการเวลาและเส้นทาง (Time and Route Management)
ผู้บริหารมักมีตารางงานแน่น การตรงต่อเวลา (Punctuality) จึงเป็นสิ่งที่ต่อรองไม่ได้
-ตรงต่อเวลาและวางแผนล่วงหน้า ต้องไปถึงจุดนัดหมายก่อนเวลาเสมอ (ไม่ใช่แค่ตรงเวลา) และต้องวางแผนเส้นทางล่วงหน้าอย่างละเอียด รวมถึงมีเส้นทางสำรองในใจเสมอ
-การใช้เทคโนโลยี สามารถใช้แอปพลิเคชันนำทาง (GPS/Google Maps/Waze) ได้อย่างคล่องแคล่วและรวดเร็ว เพื่อประเมินสถานการณ์จราจรและปรับเปลี่ยนเส้นทางได้อย่างแม่นยำ
-ความยืดหยุ่น เข้าใจว่าตารางงานผู้บริหารเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ต้องพร้อมรับมือกับการทำงานล่วงเวลา การเดินทางกะทันหัน หรือการรอคอยเป็นเวลานานด้วยความเป็นมืออาชีพ
5.ความอดทนและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า (Patience and Problem Solving)
งานขับรถผู้บริหารนั้นเต็มไปด้วยความกดดัน ทั้งจากสภาพการจราจรที่คาดเดาไม่ได้ และความคาดหวังในการบริการระดับสูง
-วุฒิภาวะทางอารมณ์ ต้องมีความอดทนสูง มีสติ ไม่หัวร้อน ไม่หงุดหงิดง่าย และสามารถควบคุมอารมณ์ได้ในทุกสถานการณ์
-การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า สามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและมีเหตุผลเมื่อเกิดปัญหา เช่น หากรถยางแบนจะต้องจัดการอย่างไร หรือหากผู้บริหารต้องการเปลี่ยนแปลงจุดหมายแบบกระทันหัน จะต้องปรับเส้นทางอย่างไรให้รวดเร็วที่สุด
ผู้บริหารไม่ได้จ้าง “คนขับรถ” แต่จ้าง “ผู้เชี่ยวชาญด้านการขับขี่และการบริการส่วนบุคคล” ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดความกังวลในการเดินทางให้กับพวกเขา หากคุณสามารถแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในคุณสมบัติเหล่านี้ได้ คุณก็มีโอกาสสูงที่จะประสบความสำเร็จในอาชีพนี้
คำถามที่พบบ่อย (FAQs) เกี่ยวกับสิ่งที่นายจ้างมองหาในคนขับรถผู้บริหาร
- ผู้บริหารอยากได้คนขับรถที่มีอายุเท่าไหร่?
ช่วงอายุที่นายจ้างมักจะพิจารณาคือช่วง 30-50 ปี เนื่องจากเป็นช่วงที่แสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะ ความรับผิดชอบ และประสบการณ์ในการขับขี่ที่ยาวนาน แต่สิ่งที่สำคัญกว่าอายุคือสุขภาพที่แข็งแรงและสายตาที่ดี
- คนขับรถผู้บริหารต้องได้ภาษาอังกฤษด้วยหรือไม่?
ไม่จำเป็นเสมอไป แต่การสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษ (หรือภาษาอื่น ๆ เช่น จีน, ญี่ปุ่น) ได้บ้าง จะถือเป็น ข้อได้เปรียบอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้บริหารเป็นชาวต่างชาติ หรือต้องขับรถไปรับ-ส่งแขกของบริษัทที่เป็นชาวต่างชาติ
- คนขับรถผู้บริหารต้องช่วยงานอื่นที่ไม่ใช่การขับรถด้วยไหม?
ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละองค์กร หน้าที่หลักคือการขับรถและการดูแลรถ แต่ผู้บริหารบางท่านอาจขอให้ช่วยงานเบา ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง เช่น ช่วยยกสัมภาระ ช่วยส่งเอกสารเล็กน้อย หรือช่วยจัดเตรียมรถให้พร้อมสำหรับการประชุม ความเต็มใจในการช่วยเหลือ (Service Mind) เป็นสิ่งที่นายจ้างชื่นชมอย่างมาก
- ลักษณะการขับขี่ที่ผู้บริหารไม่ชอบคืออะไร?
ผู้บริหารส่วนใหญ่ไม่ชอบการขับขี่ที่ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยหรือไม่สบายตัว เช่น การขับเร็วเกินไป การเร่งเครื่องแรงๆ การเบรกกระทันหัน (หัวทิ่ม) หรือการเปลี่ยนเลนแบบกระโชกโฮกฮาก นอกจากนี้ยังรวมถึงการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ และการสูบบุหรี่ในรถ
- ความซื่อสัตย์ในการทำงานขับรถผู้บริหาร วัดจากอะไร?
วัดจาก ความโปร่งใส ในการใช้จ่าย (ค่าทางด่วน, ค่าน้ำมัน) การ รักษาความลับ ของผู้บริหาร และการ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมาย (เช่น ยาเสพติด การพนัน หรือการดื่มแอลกอฮอล์ในเวลางาน) รวมถึงการไม่มีประวัติอาชญากรรมที่ร้ายแรงด้วย
สนใจใช้บริการคนขับรถของเรา
โทร : 081-559-9808
Line : @vrcenter
ดูบริการเพิ่มเติม : บริการของเรา
อยากสมัครขับรถกับเรา
ลงทะเบียน : https://forms.office.com/r/wyNcu3rjD3
ติดต่อสอบถามเจ้าหน้า 080-594-3834
Line : @vrdriver