สำหรับรถยนต์ นอกจากสมรรถนะเครื่องยนต์และโครงสร้างภายนอกของรถยนต์ องค์ประกอบภายในรถก็สำคัญเช่นกัน ซึ่งในบทความนี้จะกล่าวถึงเบาะรถยนต์ซึ่งเป็นส่วนรองรับน้ำหนักของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร สร้างความสะดวกสบายและความปลอดภัยตลอดการเดินทาง นอกจากปัจจัยด้านการออกแบบที่สวยงามรองรับกับองค์ประกอบอื่นๆ ภายในรถแล้ว วัสดุที่ใช้งานก็ส่งผลต่อสัมผัสความสบาย ภาพลักษณ์ และการดูแลรักษา โดยเฉพาะรถสำหรับผู้บริหารที่ต้องการความภูมิฐานและภาพลักษณ์ที่หรูหรา เปรียบเทียบข้อดีข้อด้อย ซึ่งจะมีอะไรบ้าง มาติดตามกันได้เลย
ประเภทของเบาะรถยนต์ แบ่งตามประเภทวัสดุ
เบาะรถยนต์สามารถแบ่งตามวัสดุได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ
1.เบาะรถยนต์แบบผ้า
เบาะรถแบบผ้านี้ก็สามารถแบ่งออกได้เป็นอีกหลายประเภทตามชนิดผ้าที่ใช้ ซึ่งในปัจจุบันผ้าที่นิยมใช้มาหุ้มเบาะรถจะมี 3 แบบ ได้แก่
- เบาะผ้ากำมะหยี่ เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ให้ภาพลักษณ์แบบสปอร์ต ยึดสรีระไม่ให้ลื่นไหลเมื่อเข้าโค้ง ช่วยระบายความร้อนได้ดี ทำให้รู้สึกสบายเมื่อต้องนั่งนานๆ ราคาสูงกว่าเบาะผ้าสังเคราะห์
- เบาะผ้าสังเคราะห์ สามารถเลือกสีสันและออกแบบได้หลากหลาย ทนต่อทุกสภาพอากาศ ระบายความร้อนได้ดี เหมาะกับสภาพอากาศร้อนมากที่สุดและมีราคาย่อมเยา
เบาะผ้าอาคันทาร่า (Alcantara) เป็นวัสดุที่ใช้ทดแทนหนังกลับ ประกอบด้วย ประกอบด้วย Polyester 68% และ Polyurethane 32% นิยมใช้ในการตกแต่งภายในรถสปอร์ต มีน้ำหนักเบา ไม่ลามไฟ ยืดหยุ่นสูง ให้สัมผัสนุ่มลื่นและภาพลักษณ์ที่ดูหรูหรา แต่จะไม่ทนต่อการสัมผัสเท่าหนังแท้
ข้อดีของเบาะรถยนต์แบบผ้า
- ให้สัมผัสนุ่มสบาย มีลวดลายและสีสันให้เลือกหลากหลายมากกว่า
- ระบายความร้อนได้ดี นั่งสบายเมื่อต้องเดินทางไกล
- ทนต่อทุกสภาพอากาศ
- ราคาย่อมเยา
ข้อด้อยของเบาะรถยนต์แบบผ้า
- สะสมฝุ่นและกลิ่นอับได้ง่ายกว่าเบาะหนัง
- ดูดซับความชื้น เป็นคราบเปื้อนและสกปรกได้ง่าย
- มักเกิดไฟฟ้าสถิตเมื่อเสียดสีกับเสื้อผ้า
สามารถทำความสะอาดได้เพียงบางจุด และต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดเฉพาะเท่านั้น
เบาะรถยนต์แบบหนัง
เบาะหนังมักใช้ในรถยนต์ระดับพรีเมียม หรือรถสำหรับผู้บริหาร เนื่องจากให้ภาพลักษณ์ที่หรูหรา ซึ่งหนังที่ใช้จะมีหลายชนิด เช่น หนังวัวและหนังแกะ โดยทั่วไปในงานตกแต่งรถยนต์จะแบ่งออกเป็นเบาะหนังแท้ และเบาะหนังเทียม ซึ่งจะมีความแตกต่างกันดังนี้
- เบาะหนังแท้ ไม่ว่าจะเป็นหนังชนิดใดก็ต้องผ่านกรรมวิธีฟอกสีและทำให้นุ่มหลายขั้นตอน ซึ่งมีความละเอียดอ่อนมาก ทำให้หนังแท้ที่มีราคาสูง เบาะหนังแท้จะมีความเหนียว ยืดหยุ่นเป็นพิเศษ ไม่สะสมฝุ่น ไม่ซับน้ำ ทำความสะอาดง่ายกว่าเบาะผ้า ให้สัมผัสที่หรูหรานุ่มสบาย ทนต่อการใช้งานการเสียดสีและการใช้งานในระยะยาว แต่ไม่ทนแดด ไม่ทนความร้อน และต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
- เบาะหนังเทียม ผลิตจาก PVC หรือยูรีเทน (PU) แม้ความนุ่มสบายอาจไม่เทียบเท่าหนังแท้ แต่ก็มีความทนทาน สกปรกยาก ทำความสะอาดง่าย มากกว่าหนังแท้
ข้อดีของเบาะรถยนต์แบบหนัง
- ให้ภาพลักษณ์หรูหรา สง่างาม ดูภูมิฐาน
- สวยงาม สัมผัสนุ่มสบาย
- ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน
- ไม่สะสมฝุ่นและกลิ่นอับ ไม่ซับน้ำ
- ทำความสะอาดง่าย ไม่เป็นคราบ
- ออกแบบตัดเย็บได้หลากหลาย
ข้อด้อยของเบาะรถยนต์แบบหนัง
- ราคาแพง
- หนังมักแตกลายงา โดยเฉพาะหนังเทียมที่แตกลายงาได้ง่ายกว่า
- ต้องลงน้ำยาเคลือบเงาสำหรับเบาะหนังทุกครั้งหลังทำความสะอาด
- ดูดซับความร้อนได้ดี ไม่ทนร้อน ไม่เหมาะกับรถที่ต้องจอดกลางแจ้งเป็นเวลานาน
เมื่อได้ข้อเปรียบเทียบระหว่างเบาะหนังและเบาะผ้า ทั้งในมุมของคุณสมบัติ สัมผัส และภาพลักษณ์ การเลือกเบาะรถยนต์ให้ตรงกับความต้องการคงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป สำหรับการดูแลรักษาคุณภาพรถยนต์ ที่ VR Center พนักงานขับรถของเราได้ผ่านการอบรมที่หลากหลาย รวมถึงทักษะการดูแลรักษา ความสะอาดรถยนต์ การขับขี่อย่างปลอดภัย และบุคคลิกภาพ มารยาท ในการให้บริการอย่างมืออาชีพ รวมถึง พนักงานขับรถของเราสามารถขับรถได้หลากหลายประเภท เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางและส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กับผู้ใช้บริการมากที่สุด